สถานที่ท่องเที่ยว
- By : Saksit wongthi
- Category : สถานที่ท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ:http://img.painaidii.com/images/20140910_3_1410345666_890691.jpg
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดนครพนม
นครพนมเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองสุขสงบสุดสโลว์ไลฟ์ที่เหมาะกับการมาพักจิตใจและสายตาไปกับวิวสวยๆ และอากาศดีๆ แต่คราวนี้เราจะขอพาไปเที่ยวนครพนมแบบเอาใจสายบุญและสายมูเตลูกันบ้าง กับ 8 พระธาตุประจำวันเกิดที่รวบรวมเอาไว้ครบจบในที่เดียว ณ เมืองนี้ แล้วยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ศรัทธาของชาวนครพนมเป็นอย่างยิ่งอีกหลายแห่ง แล้วไปปิดท้ายกันกับสถานที่สวยๆ สถาปัตยกรรมงามๆ
พระธาตุพนม
ที่มาของภาพ:https://blog.traveloka.com/source/uploads/sites/5/2019/03/shutterstock_425597185.jpg
พระธาตุพนม
พระธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีวอกและผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ผลจากการ ขุดค้นทางโบราณคดี ลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200–1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะ ของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอมและได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร” พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนม เท่านั้นยังเป็นที่ เคารพของ ชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือ เป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว
พญาศรีสัตตนาคราช
ที่มาของภาพ:https://blog.traveloka.com/source/uploads/sites/5/2019/03/shutterstock_1116599273.jpg
พญาศรีสัตตนาคราช
พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม ประดิษฐานบน ริมฝั่งแม่น้ำโขง บนลานศรีสัตตนาคราช หน้าสำนักงาน ป่าไม้ ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน มีความสวยงาม โดดเด่น องค์พญาศรีสัตตนาคราช หล่อด้วยทองเหลือง มีน้ำหนักรวม 9,000 กก. เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐานแปด เหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร สามารถพ่นน้ำได้ ตามที่ทราบกันว่าพี่น้องชาวไทย-ลาว มีความเชื่อผูกพัน อยู่กับองค์พญานาค เช่นเดียวกับความผูกพันในลำน้ำโขง ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าล้วนศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาค ในฐานะที่เป็น ผู้ดูแลปักปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม วัตถุประสงค์การก่อสร้างครั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณี และความเชื่อเกี่ยวต่อเรื่องพญานาคของชาวไท และชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อีกทั้งยังต้องการยกระดับ แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งใหม่อีกจุดหนึ่งของภูมิภาคนี้
วัดนักบุญอันนา
ที่มาของภาพ:https://www.paiduaykan.com/province/Northeast/nakhonphanom/pic/annachurch.jpg
วัดนักบุญอันนา
วัดนักบุญอันนา หนองแสง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ซึ่งเป็นถนนเรียบริมฝั่ง แม่น้ำโขง เป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 โดยบาทหลวงเอดัวร์ นำลาภ อธิการโบสถ์ วัดนักบุญอันนาหนองแสงนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่รวมกัน เช่น คนญวน คนไทย คนจีน คนลาวเป็นต้น วัดนักบุญอันนา สวยงามแปลกตา โบสถ์มีลักษณะเป็นหอคอยคู่ เป็นยอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่า มองเห็นได้ใน ระยะไกล
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์
ที่มาของภาพ:https://blog.traveloka.com/source/uploads/sites/5/2019/03/shutterstock_560147113-800×534.jpg
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะในอดีตประธานโฮจิมินห์ หรือที่คนละแวกนี้เรียกกันว่า บ๊ากโฮ (ภาษาเวียดนาม) หรือ ลุงโฮ ท่านเคยมาสร้างบ้านอาศัยอยู่ที่นี่ เพื่อหาแนวร่วมกลับไปกอบกู้เอกราชให้กับประเทศเวียดนามเมื่อประมาณ 90 ปีก่อน ภายในอาคารมีการจัดแสดงรูปปั้นเคารพของประธานโฮจิมินห์เพื่อให้ผู้คนเข้าไปกราบไหว้ ส่วนอีกอาคารหนึ่งจะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลองเมื่อตอนสมัยที่ท่านอพยพมาพำนักอยู่ที่หมู่บ้านนาจอก เป็นหุ่นจำลองการนั่งประชุมกับชาวบ้านซึ่งชาวบ้านที่นี่ก็อพยพมาสร้างบ้านตั้งถิ่นฐานเช่นกัน มีบ้านจำลองที่ลุงโฮได้สร้างไว้เพื่ออยู่อาศัย อีกทั้งยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์สำคัญ ๆ ให้ชมภายในอาคาร
สะพานมิตรภาพไทย – ลาว
ที่มาของภาพ:https://blog.traveloka.com/source/uploads/sites/5/2019/03/shutterstock_226970890.jpg
สะพานมิตรภาพไทย – ลาว
สะพานมิตรภาพไทย ลาว ถือเป็นสะพานเชื่อมไทยและลาวแห่งที่ 3 ของเมืองไทย ซึ่งถ้าข้ามฟากไปก็จะเป็นบ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว สะพานนี้ได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ด้วยตัวสะพานที่ทอดยาว มีแบ็คกราวนด์ด้านหลังเป็นเทือกเขาน้อยใหญ่ ข้างใต้เป็นแม่น้ำโขง เสาไฟบนสะพานก็สวยงามอ่อนช้อยแปลกตา และยังกลายเป็นประตูการค้าที่เชื่อมไทย ลาว เวียดนาม และจีน เข้าไว้ด้วยกัน
พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่า
ที่มาของภาพ:https://blog.traveloka.com/source/uploads/sites/5/2019/03/พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่า-นครพนม-1200×855.jpg
พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หรือจวนผู้ว่าหลังเก่านครพนม ตั้งอยู่ที่ถนนสุนทรวิจิตร บริเวณริมถนนเลียบโขง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เดิมเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของพระยาอดุลยเดชสยามเมศวรภัคดีพิริยพาหะ (อุ้ย นาครทรรพ) เทศาภิบาลมณฑลอุดรธานี ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมคนแรก ก่อสร้างสร้างระหว่างปี พ.ศ. 2455-2457 ผู้สร้างเป็นชาวญวน ชั้นบนและล่างไม่มีเสา และไม่มีการตอกตะปูแม้แต่ดอกเดียว ใช้การเข้าเดือยไม้ เป็นสถาปัตยกรรมดีเด่นใน จังหวัดนครพนม ที่มีความสวยงามโดยเฉพาะลักษณะเป็นศิลปะโคโลเนียลแบบตะวันตก เพราะได้รับอิทธิพลในรูปแบบการก่อสร้าง จากฝรั่งเศสช่วงสมัยสงครามอินโดจีน อาคารเป็นตึก 2 ชั้น ทรงจั่ว ก่ออิฐถือปูนหลังคามุงกระเบื้องไทย ชั้นล่างปูกระเบื้องซีเมนต์ พื้นชั้นบนปูกระดานไม้เข้าลิ้น สร้างด้วยอิฐดินเผาสมัยโบราณ ลักษณะของสถาปัตยกรรมเป็นประตูโค้งครึ่งวงกลมหน้าต่างโค้ง เหนือประตูหน้าต่างเป็นลายปูนปั้น หรือแกะสลัก หลังคาไม่ลาดชันนัก อาคารมีเสาเป็นเสาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ทั้งสิ้น แม้จะมีอายุที่ เก่าแก่มากแล้ว แต่ยังคงรักษาสภาพและความสวยงามต่างๆ ไว้ได้อย่างดีและยังคงความสวยงามจนถึงปัจจุบัน
หอสมุดแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติฯนครพนม
ที่มาของภาพ:http://oknation.nationtv.tv/blog/home/user_data/file_data/201709/08/54612ea2b.jpg
หอสมุดแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติฯนครพนม
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯนครพนม หรือหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม ตั้งอยู่ภายในศาลกลางจังหวัดนครพนม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม หอสมุดแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ นครพนมแต่เดิมเคยเป็น ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) มาก่อน สร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2458 มีความโดดเด่นที่น่าสนใจ คือ อาคารเก่าแก่สีเหลืองสวยงามที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป ในรูปแบบเรอเนสซอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ ตรงกับ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ หอสมุดแห่งนี้ เป็นแหล่งรวบรวมมรดกทาง สติปัญญาของชาติที่อยู่ในรูปของหนังสือ สิ่งพิมพ์ โสตทัศนวัสดุ หนังสือภาษาโบราณ หนังสือตัวเขียน จารึก คัมภีร์ใบลาน หนังสือหา ยากที่ผลิตขึ้นในภูมิภาค เป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า และวิจัยของ นักวิจัย ครูผู้สอน อาจารย์ ข้าราชการจากหน่วยงานต่าง ๆ นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปในท้องถิ่น รวมทั้งเป็นศูนย์รวบรวม อนุรักษ์ สงวนรักษาและเผยแพร่ทรัพย์สินทางปัญญา ของท้องถิ่น และเป็นแหล่งในการศึกษา อบรมวิชาการด้านบรรณารักษศาสตร์ ทำหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาในการจัดห้องสมุดในท้องถิ่น และสถานศึกษา
หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์
ที่มาของภาพ:https://woodychannel.com/wp-content/uploads/2014/11/clock.jpg
หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์
หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์ อีกแห่งหนึ่งของเมืองนครพนมโดดเด่นเป็นสง่า ตัวอาคารถูกทาสีด้วยสีชมพูอ่อนสะดุดตา หากใครมาตัวเมืองนครพนมต้องไม่พลาด หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกสร้างโดยชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นที่ระลึกก่อนย้ายกลับเวียดนามตามท่านโฮจิมินห์ หลังชนะสงครามภายในประเทศ เมื่อครั้งฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเดียนเบียนฟู ชาวเวียดนามที่ลี้ภัยมาอาศัยในนครพนมได้ร่วมกันสร้างหอนาฬิกาขึ้นเพื่อระลึกถึงไมตรีจิตของคนไทย สร้างเมื่อ พ.ศ.2503 สูงประมาณ 50 เมตร จุดนี้เป็นเหมือนการขอบคุณคนไทยของชาวเวียดนามที่ได้สร้างขึ้น